วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

ปัจจัยที่ 5 ตัวก่อปัญหา


เมื่อห่วงของการเล่นได้รับการตีความไปอยู่ในห่วงของการช่วยเหลือตัวเอง  ปัจจัยที่ 5 จึงเกิดขึ้น 
                ตั้งแต่เด็กจนโตการช่วยเหลือตัวเองนั้นเริ่มจากการที่เด็กดูดนมได้เอง  เคลื่อนไหวไปยังที่ต่างๆ ได้เอง  กินอาหารดื่มน้ำได้  ทำความสะอาดร่างกายอาบน้ำ แปลงฟัน แต่งตัว ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมรอบตัว บอกความต้องการได้  รู้จักสิ่งต่างๆ รอบตัว  รู้จักภาษา  รู้จักรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย รู้จักหน้าที่ของตัวเอง  ไปจนถึงรู้จักหากิน  หาใช้  เพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัย4  รวมไปถึงการดูแลรักษาซ่อมแซม (เสื้อผ้ามีไว้เพื่อปกปิดไม่ให้เกิดความละอาย  กันแมลงสัตว์กัดต่อย  บ้านมีไว้เพียงเพื่อกันแดดกันลมกันฝนและสัตว์ต่างๆ  อาหารการกินมีไว้เพื่อไม่ต้องหิวไส้กิ่ว  ส่วนยารักษาโรคมีไว้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด)
                ส่วนการเล่นนั้นก็คือการกระทำอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น เช่น เราอาจทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งบ้านหลังใหญ่ๆ  มีเสื้อผ้าสวยๆ ใส่  มีเครื่องประดับ  มีเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง  กินอาหารดีๆ  อร่อยๆ  มีประโยชน์ต่อร่างกายต่อสมองและเครื่องใน  เวลาเจ็บป่วยก็ไปหาหมอดังๆ  ใช้ยาแพงๆ เป็นต้น  ส่วนในเด็กอาจเป็นการดูทีวี  เล่นเกมส์  กินขนม  เล่นของเล่น  สุดแท้แต่กิจกรรมของแต่ละคน
                อย่างไรก็ตามความหมายของห่วงทั้งสองที่กล่าวมาข้างต้นเป็นการให้ความหมายไว้คร่าวๆ  ซึ่งความหมายของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไปตามสังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมที่เราอยู่อาศัย  เช่น บางคนต้องเข้าสังคมก็ต้องมีเสื้อผ้าดีๆ เหมาะสมกับสถานที่ที่เราไป  บางคนมีความจำเป็นในการติดต่อสื่อสารก็ต้องมีโทรศัพท์  บางคนมีการเดินทางที่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว  หรือการมีคอมพิวเตอร์ไว้จัดการงานเอกสารการทำงาน เป็นต้น 
                ปัจจัยที่5 ก็เกิดขึ้นจากสังคม  วัฒนธรรม และความเคยชินของเรา  ที่เมื่อกินใช้อย่างไรไปนานวันเข้า  จะรู้สึกว่าสิ่งๆ นั้นมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และขาดไม่ได้  ความจำเป็นของชีวิตที่เดิมมีเพียงปัจจัย 4 จึงถูกเพิ่มเติมเป็นปัจจัยที่5 ที่6...  ไปเรื่อยๆ  ไม่มีที่สิ้นสุด  จนบางครั้งก่อปัญหาให้กับเรา

                ดังนั้นเมื่อใดที่ชีวิตเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นจนยากจะแก้ไข  เราอาจย้อนกลับมาดูว่าห่วงของการช่วยเหลือตนเอง (เรื่องที่จำเป็น)  กับห่วงของการเล่น  เราให้ความหมายไว้อย่างไร  ปัญหาทุกอย่างจึงถูกเขียนออกมาให้เห็นได้ชัดเจน  ดังคำกล่าวที่ว่า  “เมื่อรู้ต้นเหตุของปัญหา นั่นหมายความว่าเราแก้ไขปัญหาได้แล้ว 50%”

ครูฤทธิ์  จิตพัฒฯ

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ความผิดเล็กๆ น้อยๆ

เจล...ลื่นไถลไปใส่มือเด็ก

เมื่อเด็กเห็นของใช้สำหรับผู้ใหญ่  ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงลองหยิบมาเปิดฝาแล้วบีบออกมาดูว่ามันเป็นอะไร  บีบไปบีบมาหมดหลอดเลย... 
ในกรณีนี้พ่อแม่บางคนอาจเห็นว่าไม่เป็นไร  ราคาไม่แพงมาก  ขณะที่พ่อแม่บางคนอาจเห็นว่าแพงไม่แพงไม่เกี่ยวใช้ไม้เรียวหวดไว้ก่อน  การตอบสนองดังกล่าวล้วนมีผลต่อบุคลิกภาพของเด็กในอนาคตซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าการตอบสนองแบบไหนดีกว่ากัน
อย่างไรก็ตามรูปแบบการตอบสนองต่อการทำความผิดต่างๆ  ที่น่าสนใจนั้นมีอยู่ เช่น การบัญญัติศีล  เมื่อสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งทำสิ่งไม่ดีขึ้นจนมีคนไปฟ้องพระพุทธเจ้า  ในความผิดครั้งแรกที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน  ท่านจะไม่ทำโทษ  จนกระทั้งสอบเรื่องราวเสร็จสิ้นและทำการบัญญัติความผิดนั้นขึ้นเป็นข้อห้ามและบทลงโทษไว้  ต่อมาภายหลังเมื่อมีสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งทำความผิดดังกล่าวจึงสอบความผิดนั้นและลงโทษตามที่ได้บัญญัติไว้
หากใครสนใจการตอบสนองต่อการทำความผิดข้างต้นก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในหนังสือพระไตรปิฎกในหมวดของวินัยปิฎกนะครับ

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ดื่ม

แก้วใบใหญ่
           
               ดูดแล้วต่อมาก็ดื่ม  หลักการก็จะคล้ายๆ กัน คือเด็กต้องการทักษะการควบคุมลมหายใจเข้าออก  ควบคุมริมฝีปากและลิ้น รวมถึงความพร้อมในการจับถือแก้วน้ำเพื่อยกดื่ม  ว่าไปแล้วก็อาจจะยากกว่าการดูดซักหน่อย  อ้อ  ที่สำคัญคือเขาต้องควบคุมระดับน้ำตอนยกแก้วด้วยว่าไม่ให้ดื่มเข้าไปทางจมูก  ไม่งั้นอาจกลัวการดื่มน้ำจากประสบการณ์ที่สำลักน้ำในครั้งแรกได้

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ดูด ดูด แล้วก็ดูด

ดูด  ดูด

                ดูดที่หนึ่งคือดูดนมแม่  เป็นดูดที่เกิดจากปฏิกริยาตามธรรมชาติของทารก  พอท้องเริ่มหิวปากก็ไซ้หานมกิน  ดูดที่สองคือดูดจากขวดนม  อันนี้ต้องเรียนรู้วิธีการดูดกันนิดหน่อย  ต้องรู้จักจับขวดนม  ยกก้นขวดให้สูงเข้าไว้  จุกนมก็มีรูหลายขนาด  หลายเบอร์ เด็กเล็กก็ใช้รูเล็กหน่อยจะได้ไม่สำลัก  ส่วนเด็กโตขึ้นมารูเล็กนมไหลไม่ทันใจก็ใช้รูใหญ่หน่อยจะได้ไม่ร้องโยเยว่าออกแรงดูดตั้งเยอะนมไหลออกมานิดเดียว  ส่วนดูดที่สามก็ตามในภาพ  คือหลอดดูด  อันนี้ต้องเรียนรู้หลายอย่าง  เป็นการเรียนรู้การเอาชนะแรงดึงดูดของโลก  ต้องทำให้น้ำในขวดไหลย้อนขึ้นมาทางหลอดถึงจะได้กิน  ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับทักษะหลายอย่างเช่น การควบคุมลมหายใจ  การควบคุมริมฝีปากและลิ้น  และต้องเข้าใจด้วยว่าเวลาดูด  หลอดด้านหนึ่งอยู่ในปาก  หลอดอีกด้านหนึ่งต้องอยู่ในน้ำ  เพราะเด็กบางคนก็กังวลอยู่กับการดูดจนลืมเอาหลอดอีกด้านจุ่มลงน้ำ  

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

หน่วยกู้ภัย


เล่นได้ทั้งครอบครัว

จอดกันเต็มพื้นที่

เกมที่10 สำหรับเด็ก 6-7 ขวบ

เกมส์พร้อมแล้ว  ลุย...


                   สำหรับเด็กที่ชอบคิดวิเคราะห์  ชอบความท้าทาย  อยากเอาชนะ  ถ้าได้เล่นเกมส์นี้คงสนุกไม่น้อย  ภายในเกมส์จะเรียงลำดับความยากง่ายไปตามอายุตั้งแต่ระดับที่หนึ่ง สอง สาม ...  ไล่ไปเรื่อยๆ ระดับที่ยากขึ้น  รถก็มากขึ้น  รูปแบบการจอดก็ยากขึ้น  ส่วนวิธีการเล่นก็ง่ายๆ  เรียงรถตามรูป  จากนั้นก็ขยับรถคันต่างๆ เพื่อเปิดช่องทางให้รถกู้ภัยออกมาได้  ลองไปหามาเล่นกันดูนะครับ

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ปฏิทิน ตัวช่วยการเขียนเลขสำหรับเด็ก

ปฏิทินน่ารักสดใส

ตัวเลขเต็มไปหมดเลย

             เวลาที่เด็กเริ่มเรียนอ่านเขียนตัวเลขเขามักจะเขียนตัวเลขเหมือนส่องกระจก  เขียนซ้ายเป็นขวา  ขวาเป็นซ้าย  เลข 2 เป็นเลข 5  เลข 4 เป็นเรือใบ  เขียนเลขหกกลับไปกลับมา  เราก็ใช้ปฏิทินนี่แหละเป็นตัวช่วยให้เขาเขียนอย่างมั่นใจมากขึ้น  แล้วยังได้ทำความคุ้นเคยกับรูปแบบวันทั้ง 7 ในปฏิทินอีกด้วย  เรียกว่าได้ประโยชน์สองต่อกันเลยทีเดียว  

ครูฤทธิ์  จิตพัฒฯ

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

นิทานที่คุ้นเคย

นิทานแสนสนุก

               หนังสือเล่มนิดเดียวแต่ในนั้นมีนิทานตั้ง 50 เรื่อง ตัวอย่างเช่น นกกระสากับหมาจิ้งจอก  ชาวนากับงูเห่า  ราชสีห์กับหนู  สุนัขจิ้งจอกหางด้วน  ฯลฯ  เป็นนิทานวัยเด็กที่คุณพ่อคุณแม่หรือครูที่โรงเรียนมักเล่าให้เราฟัง  เมื่อถึงคราวเราเป็นคุณพ่อคุณแม่  เราก็เอามาเล่าต่อให้ลูกฟัง  ประสบการณ์เหล่านี้จะถูกถ่ายถอดไป...จากรุ่นสู่รุ่น

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

นาฬิกาหลอด

 อนาล็อก
ดิจิตอล
คนโบราณจะใช้นาฬิกาแดด  คนยุคปัจจุบันก็มีนาฬิกาดิจิตอลให้ใช้  ส่วนเด็กๆ เล่นนาฬิกาหลอด  เรียนรู้ตัวเลข  เข็มยาวเข็มสั้น  องค์ประกอบของนาฬิกาแต่ละแบบ  

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คทาวิเศษ

คทาวิเศษของนางฟ้า

เรื่องมีอยู่ว่า  เจ้าหญิงคนหนึ่งเที่ยวเล่นซนกับลูกแมวน้อยอยู่บริเวณบ่อน้ำ  ทันใดนั้นเองนางฟ้าก็ได้ปรากฏกายขึ้นมีแสงสว่างออกมารอบตัว  เจ้าหญิงเห็นดังนั้นจึงอุทานออกมาว่า “นี่เราฝันอยู่หรืออย่างไรกัน”  เจ้าแมวน้อยพยักหน้ารับคำ  นางฟ้าจึงบอกว่า  “เจ้าหญิง..  เจ้าไม่ได้ฝันอยู่หรอก  เราคือนางฟ้าแห่งสัตว์ทั้งปวง  เราเห็นเจ้ามีความรักความเอ็นดูให้กับลูกแมวน้อยตัวนี้  เราจึงมาปรากฏกายเพื่อให้พรกับเจ้าเป็นรางวัล” 
“แต่เราไม่ต้องการรางวัลนี่”  เจ้าหญิงตอบ
“นั้นเจ้าต้องการอะไร”  นางฟ้าถามกลับ
“เราต้องการ................................................................” 
“แล้วลูกล่ะจ้ะต้องการอะไรเป็นรางวัล”
นิทานก่อนนอนนั้นคุณแม่สามารถแต่งขึ้นเองได้ตามสิ่งแวดล้อมที่มี  หรือตามจินตนาการที่คิดขึ้นขณะนั้น  โดยอาจใช้ปากกาแทนคทาวิเศษ  หมอนแทนลูกแมวน้อย  ผ้าห่มพันขึ้นเป็นนางฟ้า  ฯลฯ  นิทานก่อนนอนทำให้เด็กมีจินตนาการและจินตนาการทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ 
เล่านิทานให้ลูกฟังซักเรื่องก่อนนะครับจะได้หลับฝันดี


ครูฤทธิ์  จิตพัฒฯ

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บ้านกังหันไขลาน


ด้านหน้า

ด้านหลัง

หมุนๆๆ

บ้านกังหันของจริงต้องใช้ลมมาปะทะถึงจะหมุน  ส่วนบ้านกังหันไขลานใช้กลไกภายใน  ไขซัก 2-3 ทีใบพัดก็หมุน
ของเล่นชิ้นนี้สำหรับเด็กเล็กมักเล่นแบบตรงไปตรงมา  คือ ทำอย่างนี้ได้อย่างนี้  เอานิ้วเขี่ยที่ใบพัด  ใบพัดก็หมุน  ส่วนเด็กโตที่เคยเรียนรู้ผลลัพธ์แบบมีเงื่อนไขมาแล้ว คือ ทำอย่างนี้ได้อย่างนั้น  จะรู้ว่าถ้าไขลาน ใบพัดก็จะหมุน 
เด็กเล็กกับเด็กโตเล่นต่างกันเหมือนดังคำกล่าวที่ว่า "ของเล่นชิ้นเดียวกัน  วิธีเล่นจะต่างกันไปตามอายุ  ทักษะ  และประสบการณ์ ของแต่ละคน"


ครูฤทธิ์  จิตพัฒฯ
                                                                                                            

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เบื้องหลังแรงจูงใจ

ตราปั้มรูปดาว

พลิ๊กมาดูกันหน่อย

น้ำหมึกสีแดง

ลองปั๊มดูซักอัน

ถ้า...........แล้ว...........  ประโยคเงื่อนไขที่บอกให้รู้ถึงเหตุและผลที่ตามมา  เป็นประโยคที่ต้องค่อยๆ สอนให้กับเด็ก  เป็นประโยคที่พ่อแม่ ครูอาจารย์ นำมาใช้ได้หลายรูปแบบ  เช่น เอาไว้สร้างแรงจูงใจ  เอาไว้สร้างเงื่อนไข  เอาไว้สอนเหตุและผล ฯลฯ 
ตราปั๊มในรูป  เมื่อเราเอามาใส่ในประโยค ถ้า.........แล้ว...........  จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับเด็กได้  อย่างเวลาที่เด็กไม่ยอมอาบน้ำแปรงฟัน  เราอาจบอกกับเขาว่า  ถ้าอาบน้ำแปรงฟัน 1 ครั้ง แล้วแม่ให้ดาว 1 ดวง  เงื่อนไขนี้ใช้ได้นานเท่าที่เขายังชอบให้แม่ปั๊มรูปให้อยู่  แต่ถ้าเด็กโตหน่อยเริ่มรู้มาก  เราอาจเพิ่มแรงจูงใจเข้าไปอีกเพื่อกระตุ้นความสนใจ เช่น ถ้าได้ปั๊มดาวครบ 10 ดวง แล้วจะพาไป...  ซื้อขนม  ไปเที่ยว  ซื้อของเล่น ฯลฯ  การบอกให้เด็กไปอาบน้ำแปรงฟันก็จะเป็นเรื่องง่ายเหมือนเดิม  แต่ก็มีข้อคิดนิดนึงสำหรับการซื้อของให้เด็ก  บางบ้านมีศักยภาพมากซื้อของแพงๆ ให้เกินกว่าอายุของเด็ก  ก็ขอให้มองเผื่อไปในอนาคตซักหน่อย ว่าครั้งหน้าเราจะให้อะไรเขา  ปีหน้า  และปีต่อๆ ไปเหลือของอะไรที่พอจะใช้เป็นแรงจูงใจได้บ้าง  เพราะถ้าเด็กได้ของทั้งหมดที่เขาอยากได้แล้วเมื่อเขาโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่อาจไม่เหลืออะไรเป็นแรงจูงใจให้กับเขาอีกเลยก็ได้  
ให้น้อยๆ  แต่ให้กันไปนานๆ...

ครูฤทธิ์  จิตพัฒฯ

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ยาหม่อง

ยาหม่องยี่ห้อเก่าแก่

ลองเปิดมาดมซิว่ากลิ่นเป็นยังไง

ขึ้นชื่อว่ายาแล้วส่วนใหญ่ก็มีอันตรายทั้งนั้นถ้าใช้ไม่ถูกวิธี  อย่างยาหม่องนี่ถ้าเอาไปทาที่ตาละก็  ถึงกับน้ำตาไหลร่วงกันเลย  แต่ถ้ารู้จักใช้เอาไว้ทาเวลาแมลงกัดช่วยดูดพิษได้ดี  เวลาหายใจไม่สะดวกกลิ่นหอมของยาหม่องก็ช่วยได้มาก  มีประโยชน์หลายอย่าง  และเป็นยาตัวแรกๆ ที่เหมาะแก่การนำมาให้เด็กเรียนรู้ถึงสิ่งที่มีทั้งประโยชน์และโทษอยู่ในตัวเดียวกัน  อย่าลืมสอนเด็กถึงประโยชน์ของยาหม่องกันนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ล.ลิงไต่ลง

 ย.ยักษ์  ร.เรือ ล.ลิง ว.แหวน ฯลฯ

ตั้งท่าเตรียมพร้อมแล้วปล่อยได้

ลงมาถึงที่หมายห้อยแขนสบาย


เพิ่มความท้าทายด้วยการปล่อยให้ลงมาหยุดอยู่ในท่านี้ (สำหรับเด็กโต)

ล.ลิงเล่นสนุก  ให้ความเพลิดเพลิน  ส่งเสริมพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก  เล่นได้ทั้งเด็กเล็กและเด็กโตที่หยิบจับของด้วยสองนิ้วได้แล้ว   เวลาเล่นใหม่ๆ พ่อแม่อาจให้เขาลองผิดลองถูกในการหยิบตัวลิงไปปล่อยด้านบน  จะได้คิดวิธีที่หยิบได้โดยไม่ทำให้บันไดล้มลง  แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ เราให้เขาลองหยิบเองซักพักแล้วค่อยแนะนำวิธีการจับที่ง่ายขึ้นก็ได้  เช่น ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้กางออกเป็นคีมจับ  บิดข้อมือเล็กน้อย  แล้วคีบตรงแขนทั้งสองข้างของลิง จะช่วยให้จับมาเล่นได้ง่าย  เท่านี้เด็กก็เล่นได้สนุกขึ้นโดยไม่ต้องมาคอยตั้งบันไดเวลาหยิบลิงแล้วไปดันบันไดล้ม

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บวกลบในเกมส์

 ช่วยคิดหน่อยว่าโจทย์นี้ถูกหรือผิดกันแน่

เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่คำตอบได้เลย

ถ้าตอบถูกเพนกวินเต้นระบำ

เด็กๆ ตอบผิดเพนกวินเลยเสียใจ

ตัวควบคุมเคอร์เซอร์

            การเล่นเกมส์ใช่ว่าจะไม่ดีไปซะทั้งหมด  เกมส์ส่วนใหญ่ก็ทำมาให้เกิดความเพลิดเพลิน  มีจุดท้าทาย  มีภาพสวยๆ  อย่างในเกมส์นี้ชื่อว่า “Talking Kids Math and Numbers” (หาโหลดได้ในแอนดรอย)  มีตัวเพนกวินคอยตอบสนองอยู่ที่หน้าจอ  ตอบถูกก็ดีใจ  ตอบผิดก็แสดงท่าทางเสียใจ  ส่วนตัวเด็กเองก็ได้ทดลองควบคุมเคอร์เซอร์ให้เลื่อนไปในที่ต่างๆ (เป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง)  อีกทั้งยังได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาจากที่โรงเรียน  และก็มีความเพลิดเพลินทำให้ฝึกการคิดคำนวณไปโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังทำโจทย์เลขอยู่ 

            อย่างไรก็ตามเกมส์ก็คือเกมส์  เล่นแล้วอาจติดได้  ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมกำหนดเวลาเล่น  เวลาเลิกให้ชัดเจนนะครับ

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ลูกข่าง (ดีไซด์ญี่ปุ่น)


อ้วนๆ กลมๆ

เอียงตัวกันหน่อย

คว่ำให้ดูกันอีกมุม

จุดสมดุล

รูปร่างด้านข้าง โชว์กันชัดๆ ว่าศูนย์ถ่วงต่ำแค่ไหน


ลูกข่างหมุนๆ  ของเล่นฝึกพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กที่ให้ความรู้สึกท้าทายอยากหมุนให้ได้นานๆ หรือเล่นแข่งกันกับเพื่อนๆ เหมาะกับเด็กที่ใช้นิ้วมือได้คล่องในระดับหนึ่ง  

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เครื่องบินมือหมุน


เครื่องบินเหาะมือหมุน

พร้อมบินกันหรือยัง.....

ไปกันได้เลย

            ของเล่นส่งเสริมพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก  หมุนสนุกได้ลมเย็น  รูปเครื่องบิน  เล่นได้ทั้งชายและหญิง  ที่สำคัญ  ราคาไม่แพงหาซื้อได้ตามร้าน  20 บาททั่วไป ลองไปซื้อเล่นกันดูนะครับ

วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กลิ้งๆ ดึ๋งๆ

               เวลามองแมวเล่นลูกบอกก็จะรู้สึกแปลกใจนิดๆ ว่าทำไมมันถึงเล่นอยู่ได้นานนัก  แต่พอมานึกถึงคนเราเองเวลาเล่นบอลกันก็เล่นกันนานเหมือนกัน  แมวที่เล่นบอลนานๆ  ส่วนมากจะเป็นแมวเด็กอายุไม่มาก  มักเอาเท้าเขี่ยไปมา  พอมันกลิ้งก็วิ่งตามไปจับเอาไว้  แล้วก็เขี่ยไปเขี่ยมาอีก  แต่ไม่ค่อยเห็นแมวแก่ๆ เล่น
            ลูกบอลนั้นมีด้วยกันหลายแบบ  ทั้งแบบนิ่ม  แบบแข็ง  เด้งดี  เด้งน้อย  กลิ้งไกล  มีน้ำหนัก  ลูกบอลที่เหมาะสำหรับเด็ก  ลูกบอลที่เหมาะสำหรับวัยรุ่น (บาส  บอล  วอลเล่ย์  ตะกร้อ ฯลฯ)  ลูกบอกที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ (บอลสำหรับบริหารมือ)
            สำหรับลูกน้อยยังตัวเล็กอาจใช้เป็นหมอนลูกบอล  กลมๆ  กลิ้งได้  ไว้เล่นบนเตียง  หรือบอลลูกเล็กๆ ที่บีบแล้วมีเสียงดัง  พอเดินได้ก็หาบอลแบบกลิ้งได้แต่กลิ้งไปไม่ไกลนักจะได้เอาไว้ใช้เป็นเป้าหมายในการเดินไปเตะ  พอเดินได้คล่องคราวนี้เอาแบบเด้งได้  จะได้มีลูกเล่นหลายอย่าง  ทั้งจับทุ่มชนกำแพง  กระเด้งกลับมาชนตัวเอง  วิ่งไปเก็บ  โยนขึ้นโยนลง  โยนกระเด้งพื้นส่งให้อีกคน 
            โดยมากแล้วเมื่อพูดถึงลูกบอลในแง่ของพัฒนาการ  เรามักจะนึกถึงพัฒนาการทางด้านร่างกาย  แต่จริงๆ แล้วพัฒนาการด้านอื่นๆ ก็ตามมาหลังจากนั้น   ยกตัวอย่างเช่น  เวลาเด็กออกไปเตะบอลกับเพื่อน  เขาก็ได้เล่นบอลได้พัฒนากล้ามเนื้อด้านร่างกาย  เล่นกับเพื่อนได้พัฒนาด้านสังคม  เวลาเล่นต้องคิดวิธีรับบอลยังไง  ส่งบอลไปตรงไหน  วิ่งไปอยู่ตรงไหนในสนามได้พัฒนาด้านสติปัญญา  สุดท้ายมีแพ้ชนะได้พัฒนาด้านอารมณ์  รวมครบทั้ง 4 ด้าน  เห็นข้อดีของการเล่นบอลอย่างนี้แล้วเรามาชวนเด็กไปกลิ้งๆ  ดึ๋งๆ กันเถอะ

                                                                                                                                      ครูฤทธิ์  จิตพัฒฯ

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ห่วงที่3: ระเบียบวินัยและความรับผิดชอบ

ความผิดเล็กๆ น้อยๆ


ของเล่นจากตลาดน้ำ

วันก่อนไปเดินตลาดน้ำอากาศร้อนอบอ้าว  พอดีมีร้านขายพัดโบราณราคาอันละ 20 บาท เป็นพัดที่เราใช้กันทั่วไปสมัยเด็กๆ  เลยซื้อมาอันนึง  จริงๆ ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครใช้แล้ว  เห็นมีแต่คนใช้พัดลมมือถือแบบใส่ถ่าน  ราคาอันละ 20 บาทเท่ากัน 
            พอกลับมาบ้านพัดอันนั้นก็ไม่ได้ใช้อีก  เพราะมีพัดลมอยู่ไม่ต้องใช้พัดโบราณให้เมื่อยมือ  เลยหยิบมาดูว่ามันจะใช้ทำอะไรได้อีกบ้าง  แล้วก็คิดถึงตอน สมัยเด็กๆ  พ่อแม่ชอบชี้ให้ดูก้อนเมฆแล้วให้เราจินตนาการถึงสิ่งต่างๆ  รอบตัว เช่น รถ  นก  ต้นไม้  ฯลฯ  ลายของพัดก็เมือนกันทำให้เราจินตนาการสิ่งต่างๆ ได้พอสมควรเช่น รูปหัวใจ  ยานอวกาศ  เกมส์ยิงจรวด ฯลฯ
            ถ้าเราเอาพัดไปรวมกับลูกแก้ว ก็จะได้ของเล่นขึ้นมาอีกชิ้นหนึ่งเอาไว้ให้เด็กฝึกควบคุมให้ลูกแก้วกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพัดไม่ให้ตก ถือเป็นการฝึกทักษะทางด้านร่างกายในส่วนของกล้ามเนื้อมัดใหญ่  และกล้ามเนื้อมัดเล็กให้กับเด็กได้  หรือ หากนำมาเล่นในเรื่องของจินตนาการ  พัดนี้ก็คือพัดวิเศษที่เมื่อผู้ที่ถือพัดต้องการสิ่งใดแล้ว โบกพัดไปหนึ่งทีจะเกิดเป็นของสิ่งนั้นขึ้นมา
            ของเล่นของเด็กราคาอาจไม่ต้องแพงมากนัก  เพียงแค่เราใส่วิธีการเล่นลงไปในของใกล้ๆ ตัว  ของเหล่านี้ก็กลายเป็นของเล่นขึ้นมาได้เหมือนกัน  แต่สำหรับคนมีเงินก็ไม่ว่ากันนะครับ  เพราะของเล่นที่มีราคา  ก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป
                     
      ครูฤทธิ์  จิตพัฒฯ

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คำถามเรื่องลูกร้องไห้ก่อนเข้าโรงเรียน

คำถาม

สวัสดีค่ะ
           มีเรื่องอยากถามหน่อยค่ะ คือลูกชายเวลาที่ไปส่งที่โรงเรียน ก่อนเข้าเรียนมักจะชอบร้องไห้ก่อนเข้าไปเสมอ พอเข้าไปแล้วคุณครูก็บอกว่าไม่ร้องไห้แล้วเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วค่ะ ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร และต้องทำอย่างไรดีค่ะ รบกวนช่วยตอบทีนะคะ

 จากคุณแม่ลูก1ค่ะ 

คำตอบ

             เวลาลูกไปโรงเรียนแล้วร้องไห้ก่อนเข้าโรงเรียนเด็กส่วนมากจะเป็นในช่วงแรกๆ ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ เมื่อเขารู้ว่าทุกวันในเวลานี้ต้องไปโรงเรียน เด็กก็จะเริ่มปรับตัวได้และไม่ร้องไห้ แต่ถ้าร้องไห้นานเป็นปีคงต้องมาสำรวจกันว่าเกิดจากสาเหตุอะไร 
              ปัญหาเด็กไม่อยากไปโรงเรียนมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย แต่จากคำถามที่คุณแม่ส่งมานั้นอาจเกิดจากการ “กลัวการพลัดพราก” ซึ่งโดยมากความกลัวนี้จะเกิดขึ้นกับเด็ก แต่เราอาจพบความกลัวแฝงที่เกิดจากผู้ปกครองได้เหมือนกัน ดังนั้นให้เช็คก่อนว่า ผู้ใหญ่หรือเด็กที่มีความรู้สึกกลัวการพลัดพราก และใครมีมากน้อยเท่าไร 
             การแก้ไข ในที่นี้เนื่องจากครูบอกว่าเข้าเรียนไปก็ไม่ร้องไห้แล้วแปลว่าอยู่ที่โรงเรียนเด็กปรับตัวได้ระดับหนึ่งแล้ว เหลือแค่ตอนส่งจากมือแม่สู่มือครูที่ยังเป็นปัญหา ดังนั้น เราอาจใช้วิธีการแบบค่อยเป็นค่อยไป คือ ค่อยๆ ลดช่วงเวลาตรงนี้ลง เช่น จาก 10 นาที เป็น 9 นาที จาก 9 นาที เป็น 8 นาที ไปเรื่อย จนเหลือแต่เวลาเตรียมกระเป๋า น้ำ นม ขนม ฯลฯ หรือจะให้ดีขึ้นไปอีก ก็เตรียมตัวพร้อมเข้าโรงเรียนมาตั้งแต่ที่บ้านเลย ถือว่าเป็นการเตรียมใจไปในตัว พอถึงโรงเรียน กายพร้อม กระเป๋าพร้อม ใจพร้อม เข้าโรงเรียนได้เลย แรกๆ เราคงต้องให้เวลาในการแก้ปัญหาซักนิด ให้เวลาทั้งตัวเรา ทั้งตัวลูก แต่พอนานวันเข้าก็จะดีเองครับ สู้ๆ... 


 ครูฤทธิ์ จิตพัฒฯ


สามารถส่งคำถามเกี่ยวกับลูกๆ ของท่านมาได้ที่ Chinaf1111@gmail.com 

วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คำถามเรื่องลูกแฝด

คำถาม

สวัสดีค่ะ

            ดิฉันมีเรื่องลูกแฝดอยากสอบถามถึงแนวทางแก้ไขค่ะ คือ ดิฉันมีลูกชายฝาแฝดเรียนอยู่อนุบาลแล้วค่ะ (A) เวลาอยู่ที่บ้านจะค่อนข้างขี้อาย และไม่ค่อยอยากทำอะไร ส่วน(B)จะตรงกันข้ามเลยค่ะ แต่พออยู่ที่ รร คุณครูกลับบอกว่าสลับนิสัยกันค่ะ ดิฉันจึงอยากรู้ว่าเป็นปัญหาอะไรไหมคะ และมันเป็นเพราะอะไร และจะแก้ไขอย่างไร หรือปล่อยไปเดี๋ยวจะหายไปเองคะ ตอนนี้เริ่มมีความกังวลแล้วค่ะ

คำตอบ
            ความจริงแล้วเมื่อเด็กเข้าโรงเรียนได้พบเพื่อน  ได้เจอคุณครู  ได้เห็นสิ่งแล้วล้อมใหม่ๆ  เด็กทุกคนจะมีช่วงเวลาของการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม  ซึ่งแต่ละคนก็จะมีช่วงเวลาในการปรับตัวไม่เท่ากัน  และผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับตัวก็ไม่เหมือนกันอีกด้วย  จากคำถามที่คุณแม่ถามมาเข้าใจว่า น้อง (A) กับ น้อง (B) น่าจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน เช่น อาจอยู่คนละห้อง  นิสัยตอนอยู่ที่โรงเรียนจึงต่างกัน  แต่ถ้าเป็นห้องเดียวกันน้องจะได้รับประสบการณ์ต่างๆ  ที่คล้ายกันถ้ามีนิสัยแตกต่างกันมากคงต้องลงในรายละเอียดอีกที 

            ส่วนที่บอกว่าเวลาน้องอยู่บ้านเป็นอย่างหนึ่ง พออยู่โรงเรียนสลับกัน  เป็นเพราะเด็กพยายามปรับสมดุลชีวิตของตัวเอง  คนหนึ่งอยู่บ้านแสดงออกมาก ทำนั่นทำนี่มากพออยู่ที่โรงเรียนอาจเห็นว่าทำที่บ้านมากพอแล้วเลยไม่ค่อยอยากทำอะไรที่โรงเรียน  ส่วนอีกคนหนึ่งอยู่บ้านขี้อายไม่ค่อยอยากทำอะไร  พอมาที่โรงเรียน  ทำนั่นทำนี้มาก  เป็นเรื่องปกติครับ  แต่ถ้าสิ่งที่เด็กแสดงออกมานั้นก่อปัญหาขึ้นเช่น ขี้อายจนไม่กล้าทำอะไร (อาจทำให้การเรียนรู้ของเขาด้อยลง)  หรือ แสดงออกมากเกินไปจนรบกวนชั้นเรียน  รบกวนเพื่อน  แสดงออกในเวลาที่ไม่เหมาะสม  คงต้องพิจารณาหาแนวทางแก้ไขกันต่อไปครับ


สามารถส่งคำถามเกี่ยวกับลูกๆ ของท่านมาได้ที่ Chinaf1111@gmail.com 

วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ถาม ตอบ

ตอบปัญหาเด็กไม่พูด


คำถามเรื่องลูกแฝด

คำถามเรื่องลูกร้องไห้ก่อนเข้าโรงเรียน

ห่วงที่2 : การเล่น

ปฏิทิน ตัวช่วยการเขียนเลขสำหรับเด็ก

นิทานที่คุ้นเคย

หน่วยกู้ภัย

นาฬิกาหลอด


เรียนภาษาไทยจากบทเพลง

ลูกข่าง (ดีไซด์ญี่ปุ่น)

บวกลบในเกมส์

ห่วงที่1 : การช่วยเหลือตัวเอง

ดื่ม

ดูด ดูด แล้วก็ดูด


การช่วยเหลือตนเอง

สี่จตุรเทพแห่งการช่วยเหลือตนเอง



แนวคิด

แนวคิด 3 ห่วงพัฒนาการ


สามห่วงพัฒนาการ (เด็ก)