วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สามห่วงพัฒนาการ (เด็ก)

 
การเล่น เพื่อพัฒนาการทางด้านต่างๆ
          ร่างกาย เมื่อเด็กได้ทำกิจกรรมต่างๆ  พลังงานที่เขาได้รับมาจากการรับประทานอาหารก็จะถูกใช้งานอย่างเต็มที่  ซึ่งปกติแล้วเด็กส่วนใหญ่จะไม่รู้จักการออมแรง  เขามักทำสิ่งต่างๆ อย่างเต็มความสามารถ  ไม่มีความกังวลเรื่องอื่นนอกเหนือจากเรื่องที่กำลังทำอยู่  เขาจะเรียนรู้การใช้ร่างกายได้จากการทำกิจกรรมนี้เอง  ดังนั้นยิ่งได้ทำกิจกรรมหลากหลาย  เขาก็จะยิ่งได้เรียนรู้ร่างกายของตนเองมากตามไปด้วย
อารมณ์อยากรู้อยากเห็น  เป็นอารมณ์ของเด็กที่มีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการของเด็กโดยตรง  เมื่อใดที่เด็กเริ่มอยากรู้อยากเห็น  เขาก็จะเริ่มแสวงหา  พัฒนาการก็จะเริ่มต้นจากตรงนี้เอง
สังคมของเด็กจะเริ่มจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเด็กที่สุดก่อน  แล้วขยายวงกว้างออกไปตามความสามารถและความจำเป็นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เช่น เมื่อแรกเกิด มีแม่กับลูก  นอนบนเตียง มีตุ๊กตาหมีเป็นเพื่อน  คลานได้ก็เริ่มมีสังคมกว้างขึ้น  เดินได้ก็กว้างขึ้นอีก  จนไปโรงเรียนได้ 
สติปัญญา  ถ้าหัวโตไม่ได้เกิดเพราะบวมน้ำหรือเป็นโรคก็อาจอนุมานได้ว่าเป็นคนหัวดีมีสติปัญญามาก  นี่คือพันธุกรรม(พันธุ์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง)  อีกครึ่งต้องอาศัยสิ่งแวดล้อมในเรื่องของการเรียนรู้  รู้มากจำได้มากตอบสนองรวดเร็วถูกต้อง  ก็เรียกว่ามีสติปัญญาดี

การช่วยเหลือตนเอง
          กิจวัตรประจำวัน เช่น กินข้าว อาบน้ำแต่งตัว เข้าครัวหาอาหาร  ล้างจาน  ทำความสะอาดห้องนอน  ห้องนั่งเล่น(ถ้ามี) รู้จักหากิจกรรมยามว่างทำเอง (เล่นเองเป็นไม่ต้องสอนหรือแนะนำให้เล่นเหมือนเด็กพิเศษบางประเภท)  ถ้าเด็กทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้เอง  ด้วยตัวเอง  ก็จะเป็นการลดภาระให้กับบุคคลรอบข้างได้มาก และถือว่าเป็นเด็กที่มีพัฒนาการที่ดี

ระเบียบวินัยและความรับผิดชอบ ห่วงใหญ่ที่ควบคุมอีกสองห่วง
          ในทุกๆ การเล่น  ทุกๆ กิจกรรมที่เด็กทำ  เขาจะต้องรู้กฎเกณฑ์ว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้  และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไป  เช่น เล่นของเล่นเสร็จแล้วต้องรู้จักเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย  ไม่เป็นภาระหรือปัดความรับผิดชอบให้คนอื่นมาเก็บให้ (ในเรื่องความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันจะเอาไว้พูดทีหลัง)  จึงเรียกว่ามีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น