เด็กๆ เกิดมาพร้อมกับศักยภาพในการเรียนรู้ สมองที่พัฒนาต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา
เซลล์ประสาทแต่ละเซลล์ลอยเคว้งอยู่รอประสาทสัมผัสต่างๆ ทำงานจึงค่อยๆ
เคลื่อนตัวเข้าหากัน แตกกิ่งก้านสาขาเชื่อมโยงติดต่อประสานกันแบบอ่อนแรงรอจนได้เรียนรู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าการประสานระหว่างเซลล์จึงเริ่มแข็งแรงขึ้น กระแสประสาทวิ่งไปมาหากันได้เร็วขึ้น ยิ่งการเชื่อมโยงนั้นมีส่วนแตกแขนงไปหาแหล่งสร้างความสุขด้วยแล้วยิ่งทำให้อยากทำสิ่งนั้นซ้ำๆ
การได้ดู ได้ฟัง
ได้สัมผัส ได้ชิม ได้ดมกลิ่น
สมองจะเริ่มจดจำสิ่งต่างๆ เอาไว้
เป็นภาพบ้าง เป็นเสียงบ้าง
ฯลฯ
พอมีคนมาบอกว่าภาพหรือเสียงนั้นเรียกว่าอะไร การเชื่อมโยงในสมองก็เพิ่มขึ้น
เมื่อมีคนมาบอกว่าภาพหรือเสียงนั้นทำอย่างนั้นได้ทำอย่างนี้ได้ การเชื่อมโยงก็เพิ่มขึ้นอีก เพิ่มไปเรื่อยๆ ยิ่งได้ทำซ้ำการเชื่อมโยงยิ่งแข็งแรง
แต่ในทางกลับกันถ้าไม่ได้ทำซ้ำการเชื่อมโยงจะอ่อนแรงจนบางครั้งขาดการเชื่อมโยงไป
การจดจำสิ่งของต่างๆ รอบตัวนั้นต้องใช้เวลา ใช้การดูซ้ำ
การทำซ้ำ
กว่าจะเรียนรู้ว่าโต๊ะเรียกว่าโต๊ะ
เตียงเรียกว่าเตียง
ตู้เรียกว่าตู้
ค่อนข้างใช้เวลา
(ตู้เย็นคงใช้เวลาเรียนรู้ไม่นานนักเพราะมักให้ความสุขกับเรา) การจดจำพยัญชนะและสระก็เหมือนกัน พยัญชนะมี 44 ตัว สระมี 32 รวมกันต้องจดจำถึง 76 อย่าง กว่าจะเชื่อมโยงจดจำลักษณะ แยกแยะความแตกต่าง เรียกชื่อให้ถูก มีความมั่นใจในการเรียกชื่อต่างๆ
เท่านั้นยังไม่พอต้องจดจำอีกว่าลักษณะของอันนี้มาอยู่กับอันนี้ อันนี้มาอยู่กับสระ สระมารวมกับพยัญชนะ ฯลฯ
อ้าว... ยังมีวรรณยุกต์อีก จำไม่ไหวไปเล่นดีกว่า
บางครั้งเด็กๆ ก็ต้องการเวลา การเร่งโดยมองข้ามบางสิ่งบางอย่างไปเราอาจสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไปเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น