วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

ปัจจัยที่ 5 ตัวก่อปัญหา


เมื่อห่วงของการเล่นได้รับการตีความไปอยู่ในห่วงของการช่วยเหลือตัวเอง  ปัจจัยที่ 5 จึงเกิดขึ้น 
                ตั้งแต่เด็กจนโตการช่วยเหลือตัวเองนั้นเริ่มจากการที่เด็กดูดนมได้เอง  เคลื่อนไหวไปยังที่ต่างๆ ได้เอง  กินอาหารดื่มน้ำได้  ทำความสะอาดร่างกายอาบน้ำ แปลงฟัน แต่งตัว ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมรอบตัว บอกความต้องการได้  รู้จักสิ่งต่างๆ รอบตัว  รู้จักภาษา  รู้จักรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย รู้จักหน้าที่ของตัวเอง  ไปจนถึงรู้จักหากิน  หาใช้  เพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัย4  รวมไปถึงการดูแลรักษาซ่อมแซม (เสื้อผ้ามีไว้เพื่อปกปิดไม่ให้เกิดความละอาย  กันแมลงสัตว์กัดต่อย  บ้านมีไว้เพียงเพื่อกันแดดกันลมกันฝนและสัตว์ต่างๆ  อาหารการกินมีไว้เพื่อไม่ต้องหิวไส้กิ่ว  ส่วนยารักษาโรคมีไว้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด)
                ส่วนการเล่นนั้นก็คือการกระทำอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น เช่น เราอาจทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งบ้านหลังใหญ่ๆ  มีเสื้อผ้าสวยๆ ใส่  มีเครื่องประดับ  มีเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง  กินอาหารดีๆ  อร่อยๆ  มีประโยชน์ต่อร่างกายต่อสมองและเครื่องใน  เวลาเจ็บป่วยก็ไปหาหมอดังๆ  ใช้ยาแพงๆ เป็นต้น  ส่วนในเด็กอาจเป็นการดูทีวี  เล่นเกมส์  กินขนม  เล่นของเล่น  สุดแท้แต่กิจกรรมของแต่ละคน
                อย่างไรก็ตามความหมายของห่วงทั้งสองที่กล่าวมาข้างต้นเป็นการให้ความหมายไว้คร่าวๆ  ซึ่งความหมายของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไปตามสังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมที่เราอยู่อาศัย  เช่น บางคนต้องเข้าสังคมก็ต้องมีเสื้อผ้าดีๆ เหมาะสมกับสถานที่ที่เราไป  บางคนมีความจำเป็นในการติดต่อสื่อสารก็ต้องมีโทรศัพท์  บางคนมีการเดินทางที่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว  หรือการมีคอมพิวเตอร์ไว้จัดการงานเอกสารการทำงาน เป็นต้น 
                ปัจจัยที่5 ก็เกิดขึ้นจากสังคม  วัฒนธรรม และความเคยชินของเรา  ที่เมื่อกินใช้อย่างไรไปนานวันเข้า  จะรู้สึกว่าสิ่งๆ นั้นมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และขาดไม่ได้  ความจำเป็นของชีวิตที่เดิมมีเพียงปัจจัย 4 จึงถูกเพิ่มเติมเป็นปัจจัยที่5 ที่6...  ไปเรื่อยๆ  ไม่มีที่สิ้นสุด  จนบางครั้งก่อปัญหาให้กับเรา

                ดังนั้นเมื่อใดที่ชีวิตเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นจนยากจะแก้ไข  เราอาจย้อนกลับมาดูว่าห่วงของการช่วยเหลือตนเอง (เรื่องที่จำเป็น)  กับห่วงของการเล่น  เราให้ความหมายไว้อย่างไร  ปัญหาทุกอย่างจึงถูกเขียนออกมาให้เห็นได้ชัดเจน  ดังคำกล่าวที่ว่า  “เมื่อรู้ต้นเหตุของปัญหา นั่นหมายความว่าเราแก้ไขปัญหาได้แล้ว 50%”

ครูฤทธิ์  จิตพัฒฯ

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ความผิดเล็กๆ น้อยๆ

เจล...ลื่นไถลไปใส่มือเด็ก

เมื่อเด็กเห็นของใช้สำหรับผู้ใหญ่  ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงลองหยิบมาเปิดฝาแล้วบีบออกมาดูว่ามันเป็นอะไร  บีบไปบีบมาหมดหลอดเลย... 
ในกรณีนี้พ่อแม่บางคนอาจเห็นว่าไม่เป็นไร  ราคาไม่แพงมาก  ขณะที่พ่อแม่บางคนอาจเห็นว่าแพงไม่แพงไม่เกี่ยวใช้ไม้เรียวหวดไว้ก่อน  การตอบสนองดังกล่าวล้วนมีผลต่อบุคลิกภาพของเด็กในอนาคตซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าการตอบสนองแบบไหนดีกว่ากัน
อย่างไรก็ตามรูปแบบการตอบสนองต่อการทำความผิดต่างๆ  ที่น่าสนใจนั้นมีอยู่ เช่น การบัญญัติศีล  เมื่อสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งทำสิ่งไม่ดีขึ้นจนมีคนไปฟ้องพระพุทธเจ้า  ในความผิดครั้งแรกที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน  ท่านจะไม่ทำโทษ  จนกระทั้งสอบเรื่องราวเสร็จสิ้นและทำการบัญญัติความผิดนั้นขึ้นเป็นข้อห้ามและบทลงโทษไว้  ต่อมาภายหลังเมื่อมีสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งทำความผิดดังกล่าวจึงสอบความผิดนั้นและลงโทษตามที่ได้บัญญัติไว้
หากใครสนใจการตอบสนองต่อการทำความผิดข้างต้นก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในหนังสือพระไตรปิฎกในหมวดของวินัยปิฎกนะครับ

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ดื่ม

แก้วใบใหญ่
           
               ดูดแล้วต่อมาก็ดื่ม  หลักการก็จะคล้ายๆ กัน คือเด็กต้องการทักษะการควบคุมลมหายใจเข้าออก  ควบคุมริมฝีปากและลิ้น รวมถึงความพร้อมในการจับถือแก้วน้ำเพื่อยกดื่ม  ว่าไปแล้วก็อาจจะยากกว่าการดูดซักหน่อย  อ้อ  ที่สำคัญคือเขาต้องควบคุมระดับน้ำตอนยกแก้วด้วยว่าไม่ให้ดื่มเข้าไปทางจมูก  ไม่งั้นอาจกลัวการดื่มน้ำจากประสบการณ์ที่สำลักน้ำในครั้งแรกได้

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ดูด ดูด แล้วก็ดูด

ดูด  ดูด

                ดูดที่หนึ่งคือดูดนมแม่  เป็นดูดที่เกิดจากปฏิกริยาตามธรรมชาติของทารก  พอท้องเริ่มหิวปากก็ไซ้หานมกิน  ดูดที่สองคือดูดจากขวดนม  อันนี้ต้องเรียนรู้วิธีการดูดกันนิดหน่อย  ต้องรู้จักจับขวดนม  ยกก้นขวดให้สูงเข้าไว้  จุกนมก็มีรูหลายขนาด  หลายเบอร์ เด็กเล็กก็ใช้รูเล็กหน่อยจะได้ไม่สำลัก  ส่วนเด็กโตขึ้นมารูเล็กนมไหลไม่ทันใจก็ใช้รูใหญ่หน่อยจะได้ไม่ร้องโยเยว่าออกแรงดูดตั้งเยอะนมไหลออกมานิดเดียว  ส่วนดูดที่สามก็ตามในภาพ  คือหลอดดูด  อันนี้ต้องเรียนรู้หลายอย่าง  เป็นการเรียนรู้การเอาชนะแรงดึงดูดของโลก  ต้องทำให้น้ำในขวดไหลย้อนขึ้นมาทางหลอดถึงจะได้กิน  ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับทักษะหลายอย่างเช่น การควบคุมลมหายใจ  การควบคุมริมฝีปากและลิ้น  และต้องเข้าใจด้วยว่าเวลาดูด  หลอดด้านหนึ่งอยู่ในปาก  หลอดอีกด้านหนึ่งต้องอยู่ในน้ำ  เพราะเด็กบางคนก็กังวลอยู่กับการดูดจนลืมเอาหลอดอีกด้านจุ่มลงน้ำ  

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

หน่วยกู้ภัย


เล่นได้ทั้งครอบครัว

จอดกันเต็มพื้นที่

เกมที่10 สำหรับเด็ก 6-7 ขวบ

เกมส์พร้อมแล้ว  ลุย...


                   สำหรับเด็กที่ชอบคิดวิเคราะห์  ชอบความท้าทาย  อยากเอาชนะ  ถ้าได้เล่นเกมส์นี้คงสนุกไม่น้อย  ภายในเกมส์จะเรียงลำดับความยากง่ายไปตามอายุตั้งแต่ระดับที่หนึ่ง สอง สาม ...  ไล่ไปเรื่อยๆ ระดับที่ยากขึ้น  รถก็มากขึ้น  รูปแบบการจอดก็ยากขึ้น  ส่วนวิธีการเล่นก็ง่ายๆ  เรียงรถตามรูป  จากนั้นก็ขยับรถคันต่างๆ เพื่อเปิดช่องทางให้รถกู้ภัยออกมาได้  ลองไปหามาเล่นกันดูนะครับ

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ปฏิทิน ตัวช่วยการเขียนเลขสำหรับเด็ก

ปฏิทินน่ารักสดใส

ตัวเลขเต็มไปหมดเลย

             เวลาที่เด็กเริ่มเรียนอ่านเขียนตัวเลขเขามักจะเขียนตัวเลขเหมือนส่องกระจก  เขียนซ้ายเป็นขวา  ขวาเป็นซ้าย  เลข 2 เป็นเลข 5  เลข 4 เป็นเรือใบ  เขียนเลขหกกลับไปกลับมา  เราก็ใช้ปฏิทินนี่แหละเป็นตัวช่วยให้เขาเขียนอย่างมั่นใจมากขึ้น  แล้วยังได้ทำความคุ้นเคยกับรูปแบบวันทั้ง 7 ในปฏิทินอีกด้วย  เรียกว่าได้ประโยชน์สองต่อกันเลยทีเดียว  

ครูฤทธิ์  จิตพัฒฯ

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

นิทานที่คุ้นเคย

นิทานแสนสนุก

               หนังสือเล่มนิดเดียวแต่ในนั้นมีนิทานตั้ง 50 เรื่อง ตัวอย่างเช่น นกกระสากับหมาจิ้งจอก  ชาวนากับงูเห่า  ราชสีห์กับหนู  สุนัขจิ้งจอกหางด้วน  ฯลฯ  เป็นนิทานวัยเด็กที่คุณพ่อคุณแม่หรือครูที่โรงเรียนมักเล่าให้เราฟัง  เมื่อถึงคราวเราเป็นคุณพ่อคุณแม่  เราก็เอามาเล่าต่อให้ลูกฟัง  ประสบการณ์เหล่านี้จะถูกถ่ายถอดไป...จากรุ่นสู่รุ่น